จะเห็นได้ว่าจากการศึกษาและทดลองปฏิบัติการปลูกผักกาดหอมไร้ดินน้ำนิ่ง ปลูก
ได้สะอาดปลอดภัยสามารถควบคุมาตุอาหารพืชให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมทำให้
พืชเจริญเติบโต ได้อย่างสมบูรณ์แต่อาจมีข้อจำกัดด้านภาชนะที่นำมาเพาะปลูกอาจ
เพาะได้ครั้งละไม่มาก จึงมีทางเลือกให้สามารถเพาะปลูกผักกาดหอมไร้ดินได้ครั้ง
ละมากๆโดยใช้ระบบน้ำวน การปลูกผักกาดหอมในระบบน้ำวนนี้สามารถเพิ่ม
ออกซิเจนในน้ำได้มากกว่าระบบน้ำนิ่งทำให้รากของผักกาดหอมไร้ดินสามารถใช้
ออกซิเจนทางระบบรากได้อย่างเต็มที่ทำให้ผักกาดหอมเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้นอีก
ทั้งยังปลูกผักกาดหอมได้ในปริมาณมาก ซึ่งการปลูกผักกาดหอมไร้ดินในระบบ
น้ำวน มีวัสดุอุปกรณ์ดังต่อไปนี้
1.ท่อน้ำ PVC ขนาด 2 นิ้วฟุต หรือรางสำหรับปลูก เจาะรูระยะห่าง
20-25 เซนติเมตร
2.ถ้วยปลูก
3.ปั๊มน้ำตู้ปลา
4.ปุ๋ย A และปุ๋ย B
5.ต้นกล้าที่เพาะไว้แล้ว
ขั้นตอนการปลูกมีดังนี้
1.ผสมปุ๋ยน้ำAและBโดยการนำปุ๋ยAผสมกับน้ำประปาที่ผ่านการกรองแบบ
มาตรฐานก่อนในอัตราส่วน น้ำ 1 ลิตรต่อปุ๋ยน้ำ 5 มิลลิลิตร คนให้เข้ากันแล้วพักไว้
ประมาณ 4 ชั่วโมง แล้วจึงเติมปุ๋ย B ลงไป ในอัตราส่วนที่เท่ากัน(สาเหตุที่ต้องพักไว้
ให้ห่างกันประมาณ4ชั่วโมงเพราะถ้าผสมพร้อมกันปุ๋ยทั้ง 2 ชนิดจะจับตัวกันตกผลึก พืชอาจดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่)



ภาพที่ 1 ปุ๋ย เอ และ บี
            ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ

ภาพที่ 2 ผสม ปุ๋ย A และ B
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ

ภาพที่ 3 วัดค่าการนำไฟฟ้าของปุ๋ย(EC)ให้อยู่ ระหว่าง1.4 –1.6
มิลลิซีเมนต์ ต่อเซ็นติเมตร ค่าที่เหมาะสมคือ 1.5 มิลลิซีเมนต์ ต่อเซนติเมตร
MS/CM)แล้วปั๊มน้ำให้วนอยู่ในระบบ
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ

2.นำกล้าที่เพาะไว้มาใส่ในถ้วยปลูก

ภาพที่ 4 นำกล้าใส่ถ้วยปลูก
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ

3.นำถ้วยปลูกลงท่อปลูกโดยให้รากจุ่มลงน้ำในท่อ หรือรางปลูก

ภาพที่ 5 นำถ้วยปลูกลงท่อปลูก
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ

4.คอยดูแลระดับน้ำอย่าให้แห้ง รักษาค่า EC ให้อยู่ระหว่าง 1.4-1.6 มิลลิซีเมนต์ ต่อเซนติเมตร (MS/CM) แต่ที่ดีที่สุดคือ  1.5  มิลลิซีเมนต์ ต่อเซนติเมตร(MS/CM) ควรฉีดพ่นธาตุอาหารเสริมทางใบ ทุก 7 วัน  

ภาพที่ 6 ผักกาดหอมไร้ดินระบบน้ำวน
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ

5.ดูแลบำรุงรักษาจนอายุครบ 45 วัน เก็บเกี่ยวผลผลิตได้

ภาพที่ 7 ผักกาดหอมไร้ดินน้ำวน อายุใกล้ครบกำหนดเก็บเกี่ยว
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ