หลังจากที่เรารู้จักการเพาะกล้าผักกาดหอมไร้ดินกันไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็เตรียมย้าย
ลงปลูกในภาชนะที่เหลือใช้ในครัวเรือน เช่น กะละมัง ขวดน้ำพลาสติกอ่างบัว กล่องโฟม ซึ่งจะเป็นการปลูกผักกาดหอมไร้ดินในระบบน้ำนิ่ง มีวัสดุอุปกรณ์ดังต่อไปนี้
1.กะละมังพลาสติก
2.ถ้วยปลูก
3.โฟมแผ่นความหนาประมาณ 6/8 นิ้วฟุต ถึง 1 นิ้วฟุต
4.ปุ๋ย A และปุ๋ย B
5.ต้นกล้าที่เพาะไว้แล้ว
 
1.ผสมปุ๋ยน้ำAและBโดยการนำปุ๋ยAผสมกับน้ำประปาที่ผ่านการกรองแบบมาตรฐานก่อนในอัตราส่วน น้ำ 1 ลิตรต่อปุ๋ยน้ำ 5 มิลลิลิตร คนให้เข้ากันแล้วพักไว้ ประมาณ 4 ชั่วโมงแล้วจึงเติมปุ๋ย B ลงไป ในอัตราส่วนที่เท่ากัน (สาเหตุที่ต้องพักไว้ให้ห่างกัน ประมาณ 4 ช่วโมงเพราะถ้าผสมพร้อมกัน ปุ๋ย 2 ชนิดจะจับตัวกันตกผลึกพืชอาจดูดซึมไปใช้ประโยชน์
ได้ไม่เต็มที่)
                 
ภาพที่ 1 ปุ๋ย เอ และ บี
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ
       
                 
                 
   
ภาพที่ 2 การผสมปุ๋ย เอ และ บี
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ
                 
2.นำโฟมมาเจาะรูให้ใหญ่กว่าก้นถ้วยปลูกเล็กน้อย ห่างกันประมาณ 20 เซนติเมตร ตามรูป
                           
ภาพที่ 3 โฟมเจาะรู
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ
           
                           
3.หลังจากเตรียมน้ำผสมปุ๋ยใส่ภาชนะ กะละมังแล้ว นำต้นกล้าผัดกาดหอมที่มีใบจริง
ใบที่ 3 และรากงอกยาว (ต้องมี ทั้ง รากและใบที่ 3 ) มาใส่ในถ้วยปลูก
                     
ภาพที่ 3 ต้นกล้าที่เพาะไว้มีใบที่ 3 และมีรากยาว
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ
   
                     
4.นำถ้วยปลูกมาใส่โฟมที่เจาะรู ลอยในกะละมัง โดยให้ราก จุ่มลงในน้ำที่ผสมปุ๋ย
                   
ภาพที่ 4 กล้าผักกาดหอมที่ลงถ้วยปลูกนำใส่ในรูโฟม
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ
   
                   

5.ดูแลระดับน้ำอย่าให้แห้ง ถ้าลดลงให้เติมน้ำที่ผสมปุ๋ย A และ B ลงไป
โดยถ้ามีมิเตอร์วัดค่า EC ค่าปุ๋ย(ค่าการนำไฟฟ้า)ของผักสลัดจะอยู่ที่
1.4-1.6 มิลลิซีเมนต์ ต่อเซ็นติเมตร(ms/cm)แต่ที่ดีที่สุดคือ1.5 มิลลิซีเมนต์
ต่อเซ็นติเมตร(ms/cm)ดูแลอีกประมาณ 30 วัน หลังจากวันที่ลงถ้วยปลูก
จึงเก็บเกี่ยวผลผลิตได้

   
  ภาพที่ 5 ผักกาดหอมไร้ดินน้ำนิ่ง
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ