การปลูกผักกาดหอมไร้ดิน (ผักไฮโดรโปนิกส์ : Hydroponics) คือผักที่ผ่าน
กระบวนการปลูกในน้ำที่มีธาตุอาหารละลายอยู่ เป็นกระบวนการปลูกพืชที่ไม่ใช้
ดินตามธรรมชาติ แต่ใช้ “น้ำ”เป็นองค์ประกอบหลักร่วมกับธาตุอาหารพืช ผ่านระบบ
การดูดซึมของรากไปสร้างความเจริญเติบโตทางลำต้น ใบ และดอกแก่ต้นพืช สำหรับ
การปลูกพืชไฮโดรโปนิกส์ในประเทศไทยนั้น เริ่มมีการวิจัยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 โดยภาควิชาพฤกษศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นต้นมาจนกระทั่งราวปี
พ.ศ. 2535 - 2538 เริ่มมีการแพร่หลาย ศาสตร์แห่งการปลูกพืชไฮโดรโปนิกส์กันอย่าง
จริงจังการปลูกผักกาดหอมไร้ดินกับการปลูกในถุงดำมีวิธีการต่างกันอย่างชัดเจน
โดยการปลูกแบบการปลูกแบบไร้ดินใช้น้ำผสมสารละลายธาตุอาหารพืชเป็น
ส่วนสำคัญที่จะทำให้พืชเจริญเติบโตโดยไม่อาศัยดินเลยเราเริ่มจากขั้นตอนการพาะ
กล้าผักกาดหอมไร้ดินก่อนซึ่งการเพาะกล้าผักกาดหอมไร้ดินใช้วัสดุดังนี้

วัสดุอุปกรณ์ในการเพาะกล้าผักกาดหอมไร้ดิน(ไฮโดรโปนิกส์)

อุปกรณ์ที่ใช้ในการเพาะผักกาดหอมไร้ดิน วัสดุที่ใช้ในการเพาะผักกาดหอมไร้ดิน
1.ฟองน้ำสำหรับเพาะเมล็ด 1.เมล็ดพันธุ์ผักกาดหอม
2.ไม้จิ้มฟัน หรือไม้ไผ่เล็กๆ 2.น้ำสะอาด(น้ำประปา)
3.ถาดพลาสติกลึกประมาณ 2 นิ้วฟุต  
อุปกรณ์ที่ใช้ในการเพาะกล้าผักกาดหอมไร้ดิน
1. ฟองน้ำสำหรับเพาะเมล็ด 1 แผ่น มีขนาด 30 X 20 เซนติเมตร แบ่งเป็นก้อนเล็กๆ
ขนาด 1 นิ้วฟุต X 1 นิ้วฟุต จำนวน 96 ก้อนตรงกลางแต่ละก้อนมีรอยกากบาท
เพื่อไว้หยอดเมล็ด

               
ภาพที่ 1 ฟองน้ำเพาะเมล็ด
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ
       
               
2. ไม้จิ้มฟันหรือไม่ไผ่เล็กๆ เนื่องจากเมล็ดผักกาดหอมมีขนาดเล็กมากยากต่อการ
หยอดเมล็ดลงในรอยกากบาทของฟองน้ำ ต้องใช้ไม่เล็กๆหรือไม้จิ้มฟันช่วยในการหยอดเมล็ด
                 
ภาพที่ 2 ไม้จิ้มฟันสำหรับหยอดเมล็ด
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ
         
                 
3. ถาดพลาสติกลึกประมาณ 2 นิ้วฟุต ลักษณะของถาดควรสูงกว่าฟองน้ำเล็กน้อย
การใส่น้ำให้ใส่ 1 ใน 3 ของความสูงฟองน้ำ
         
                   
ภาพที่ 3 ถาดพลาสติก
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ
     
                   
4. เมล็ดพันธุ์ ผักกาดหอม ควรดูที่เมล็ดสมบูรณ์ไม่ลีบเสีย
 
ภาพที่ 4 เมล็ดพันธุ์ผักกาดหอม
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ
 
5. น้ำประปาหรือน้ำฝน ควรใช้น้ำที่ผ่านกระบวนการกรองแล้วเท่านั้น เช่นน้ำประปา
หรือน้ำฝน ไม่ควรใช้น้ำบาดาล หรือน้ำคลอง เพราะอาจทำให้ผักกาดหอมไม่เจริญเติบโต
                   
ภาพที่ 5 น้ำประปาหรือน้ำฝน
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ
       
                   
ขั้นตอนการเพาะกล้า
1. ให้นำฟองน้ำใส่ในภาชนะแล้วใส่น้ำลงไป ใช้ฝ่ามือนวดฟองน้ำเพื่อไล่อากาศออก
เมื่อฟองน้ำซึมซับน้ำดีแล้ว ให้นำขึ้นมาไว้ในถาดเพาะ
                     
                   
ภาพที่ 6 นวดฟองน้ำเพื่อไล่อากาศออก
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ
     
                   
2. นำเมล็ดที่จะเพาะมาวางใส่ไว้ตรงรอยกากบาทให้ชิดริมด้านใดด้านหนึ่งของมุม
กากบาทของฟองน้ำแต่ละช่อง ป้องกันเมล็ดลงลึกเกินไปความลึกที่เหมาะสมไม่ควรเกิน2 มิลลิเมตรโดยใส่ให้มีความลึกเท่าๆกันทุกช่อง ให้ใส่ช่องละ 1 เมล็ด
                   
ภาพที่ 7 การหยอดเมล็ดลงฟองน้ำเพาะเมล็ด
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ
   
                   
3. หลังจากหยอดเมล็ดครบทุกช่องให้นำไว้ในที่มืดประมาณ 2-3 วันเมล็ดจะงอก
ให้นำออกมารับแสงแดดอ่อนๆ แล้ววันถัดไปให้นำออกรับแสงได้
                   
ภาพที่ 8 ต้นอ่อนผักกาดหอม
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ผู้ถ่ายภาพ
   
                   
4. ใช้กระบอกฉีดน้ำเป็นละออกเพื่อรักษาความชื้นทุกวัน ในขณะที่น้ำในถาด
ให้รักษาระดับอยู่ที่ 1 ใน 3 ของความสูงของฟองน้ำ รอจนประมาณ 15 วัน
จึงพร้อมนำลงปลูกในถ้วยปลูก หรือสังเกตต้นกล้ามีใบจริงและรากงอก จึงพร้อม
ลงปลูกในถ้วยปลูก
 
               
  ภาพที่ 9 กระบอกฉีดน้ำให้ความชื้น
ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข