ผักกาดหอมมีชื่อเรียกอื่นๆได้หลายชื่อเช่นภาคเหนือเรียกผักกาดยีภาคกลาง เรียกผักสลัดเป็นต้น ผักกาดหอมเป็นพืชที่จัดอยู่ในตระกูลCompositae มีชื่อวิทยาศาสตร์ ว่าLactuca sativa Linn. มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียและยุโรป มีปลูกในประเทศไทยมานานแล้วผักกาดหอมเป็นผักที่ใช้บริโภคส่วนของใบเป็นผักจำพวกผักสลัดที่มีคุณค่าทางอาหารสูงโรคและแมลงรบกวนน้อยนิยมปลูกและบริโภคกัน แพร่หลายที่สุดในบรรดาผักสลัดด้วยกัน โดยส่วนใหญ่นิยมใช้รับประทานเป็นผักสดและ นำมาประกอบอาหารหลายชนิดคนไทยนิยมใช้ผักกาดหอมกินกับอาหารจำพวก ยำต่างๆลาบผักแกล้มสาคูไส้หมู ข้าวเกรียบปากหม้เป็นต้นประโยชน์ของผักกาดหอม นอกจากจะใช้รับประทานเป็นผักสดที่มีคุณค่าทางอาหารสูงแล้วยังจัดเป็นอาหาร ทางตาด้วยโดยการนำมาตกแต่งอาหาร ให้มีสีสันสวยงามน่ารับประทานยิ่งขึ้น สำหรับความต้องการผักกาดหอมมีอยู่ตลอดทั้งปีโดยอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลต่างๆตลาดจะมี ความต้องการผักกาดหอมมาก จึงนับได้ว่า ผักกาดหอมเป็นผักที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจชนิดหนึ่งของไทยที่นับวันจะทวีความต้องการเพิ่มมาก เรื่อยๆ ใบผักกาด หอมแตกออกมาจากลำต้นโดยรอบ มีสีตั้งแต่เขียวอ่อน เขียวปนเหลืองจนถึงสีเขียวแก่ บางพันธุ์มีสีแดง หรือสีน้ำตาลปนอยู่ ทำให้มีสีแดงบรอนซ์หรือน้ำตาลปนเขียวพันธุ์ที่ห่อเป็นหัวจะมีใบหนา เนื้อใบอ่อนนุ่ม ใบจะห่อหัวอัดกันแน่นคล้ายกะหล่ำปลีใบที่ห่ออยู่ข้างในจะเป็นมัน บางชนิดมีใบม้วนงอเปราะมีเส้นใบเห็นได้ชัด ขอบใบ มีลักษณะเป็นหยัก ขนาดและรูปร่างของใบผักกาดหอมจะแตกต่างกันตามชนิด ผักกาดหอมมีสารประกอบ Lactucopirin ที่มีรสขม และรสขมจะมีอยู่มากเมื่อปลูก ผักกาดหอมในอากาศที่ร้อนและแห้งแล้ง |
|||||||||||||
ภาพที่ 1 ผักกาดหอมใบ ที่มา : นายประทีป สุ่มสุขผู้ถ่ายภาพ
|
|||||||||||||
1.ผัดกาดหอมใบ เป็นผักกาดหอมที่นิยมปลูกและบริโภคกันทั่วไปในประเทศไทย ลักษณะใบจะกว้างใหญ่และหยิกเป็นคลื่นใบจะเจริญเติบโตไปทางด้านข้าง ไม่ห่อเป็นหัว สีของใบมีตั้งแต่เขียวอ่อนถึงสีแดง แต่พบเห็นใบสีเขียวอ่อนมากกว่าสีอื่น ลักษณะต้นพุ่มเตี้ย ผักกาดหอมใบจะทนต่ออากาศร้อนได้ดีกว่าประเภทอื่นๆ สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี แต่จะปลูกได้ดีในช่วงเดือนตุลาคม – เมษายน อุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 21-26.6 องศาเซลเซียส |
|||||||||||||
ภาพที่ 2 ภาพผักกาดหอมห่อหัว |
|||||||||||||
2.ผักกาดหอมห่อหัว ใบมีลักษณะบางกรอบ ขอบใบหยัก ไม่เรียบ ต้องการอุณหภูมิในการเจริญเติบโตระหว่าง 5.5-21 องศาเซลเซียส ปลูกได้ดีในระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมสภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะสม ผักกาดหอมสามารถเจริญเติบโตได้ในดินแทบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นดินเหนียว ดินร่วน หรือดินร่วนปนทราย แต่สามารถปลูกผักกาดหอมได้ดีในดินร่วน ซึ่งมีการระบายน้ำและถ่ายเทอากาศได้ดี พื้นที่ควรได้รับแสงแดดเต็มที่ตลอดวันเพราะผักกาดหอมต้องการแสงแดดเต็มที่ตลอดวัน ผักกาดหอมเป็นพืชฤดูเดียว เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศเย็น ส่วนระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมนั้นถ้าเป็นผักกาดหอมใบจะอยู่ระหว่าง 15.5 - 21 องศาเซลเซียส หากปลูกในสภาพอุณหภูมิที่สูงเกินไปจะทำให้ผักกาดหอมมีรสขมและแทงช่อดอกเร็ว แต่อย่างไรก็ตามผักกาดหอมใบสามารถปลูกได้ตลอดปีการเพาะกล้า ทำการหว่านเมล็ดลงแปลงปลูกโดยตรงได้เลยหรือหว่านเมล็ดลงแปลงเพาะแล้วย้ายลงปลูกในภาชนะ |
|||||||||||||
ขั้นตอนการเพาะกล้าผักกาดหอมทำได้ดังนี้ |
|||||||||||||
1.เตรียมแปลงปลูกแล้วใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงในดิน พรวนย่อยหน้าดิน ให้ละเอียด ภาพที่ 3 การเตรียมแปลงเพาะกล้าผัก กาดหอม |
|||||||||||||
2.ใช้ส้อมพรวนย่อยดินให้ละเอียดหลังจากใช้เสียมหรือจอบย่อยหยาบมาแล้ว |
|||||||||||||
ภาพที่ 4 ใช้ส้อมพรวนย่อยดินให้ละเอียด ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ถ่ายภาพ |
|||||||||||||
3. หว่าน เมล็ดพันธุ์ผักกาดหอม | |||||||||||||
ภาพที่ 5 เพาะในแปลง ในภาชนะ หรือถาดเพาะ ตามที่มี ที่มา : นายประทีป สุ่มสุข ถ่ายภาพ |
|||||||||||||
หลังจากเตรียมแปลงเพาะแล้วให้หว่านเมล็ดลงบนแปลงให้กระจายทั่วแปลง แล้วใช้ดินที่ผสมกับปุ๋ยคอกโรยทับบางๆคลุมด้วยฟางข้าวหรือหญ้าแห้ง หากเป็นถาดเพาะให้หยอดหลุมละ 1 เมล็ด รดน้ำให้ชุม หลังจากนั้นดูแลรักษาจนกระทั่งต้นกล้ามีใบจริง 2 - 3 ใบ ให้ทำการถอนแยกต้นกล้าออกบ้าง เพื่อไม่ให้เบียดแน่นเกินไป เพราะอาจทำให้ต้นกล้าเกิดโรคโคนเน่าและต้นกล้าอ่อนแอได้ เมื่อต้นกล้ามีอายุได้ 15 - 30 วันหรือมีใบจริง 3 - 4 ใบ จึงทำการย้ายกล้าลงปลูกในแปลง วิธีการปลูก โดยใช้มือจับใบเลี้ยงคู่แรกใบใดใบหนึ่งแล้วหย่อนโคนลงไปในหลุม แล้วใช้ดินกลบและกดดินบริเวณโคนต้นเบาๆ จากนั้นใช้บัวฝอยละเอียดรดน้ำรอบๆต้น คลุมดินโคนต้นด้วยฟาง อาจปลูกในแปลงหรือในภาชนะเช่น กระถาง ถุง ขวดพลาสติก หรือถุงดำได้ซึ่งจะกล่าวถึงในเนื้อหาต่อๆไป |
|||||||||||||
ประโยชน์ของผักกาดหอม |
|||||||||||||
- ผักกาดหอมเป็นผักที่มีแคลอรี่ต่ำ จึงเหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก |
|||||||||||||
ภาพที่ 4 การนำผักกาดหอมไปใช้ประโยชน์ |
|||||||||||||
-นอกจากจะมีคุณค่าทางอาหารที่ดีแล้ว ยังนิยมนำมาใช้ตกแต่งอาหารเพื่อให้มีสีสันสวยงามน่ารับประทานยิ่งขึ้น |
|||||||||||||